Headlines

Entertainment

Fun & Fashion

International

Latest Updates

กล้องดาราศาสตร์เพื่อการศึกษา ราคาถูกเพียง 30$ ซึ่งเป็นเงินไทยเพียง1066บาท


ขอแนะนำของเล่นเพื่อการศึกษา กล้องดาราศาสตร์เพื่อการศึกษา ราคาถูกเพียง 30$ ซึ่งเป็นเงินไทยเพียง1066บาท
กล้องโทรทรรศน์ดาราศาสตร์ด้วยแนวทแยงกระจกขาตั้งกล้องของเล่นเพื่อการศึกษา














รายละเอียดการบรรจุ:  บรรจุ: 12 ชุด / กล่อง วัด: 3.21 Cu.Ft. ขนาดของกล่อง: 18.3 "(L) x 3.0" (W) x 7.5 "(H) กล่องต้นแบบ ขนาด: 18.8 "(L) x 15.6" (W) x 19.1 "(H) คุณสมบัติทางเทคนิค:  เส้นผ่าศูนย์กลางวัตถุประสงค์: 30MM (1.18 ") ความยาวโฟกัส: 400MM ช่องมองภาพ: 20X, 30X, 40X  เสริม: กระจกในแนวทแยง (รวม) แพคเกจรวม : 1x ดาราศาสตร์กล้องโทรทรรศน์ 

ราคา:
ดอลลาร์สหรัฐ
30.75 หรือ1,066บาทไทย
เรือจาก:
  • โกดังสินค้า CN
การส่งสินค้า:
ฟรีค่าจัดส่งเพื่อไทยผ่านทางอากาศพัสดุสมัครสมาชิก
7-25 วันทำการ

หาซื้อได้ที่นี่ คลิ็ก http://goo.gl/rrur8s

Robotto EvoBot “หุ่นยนต์ทำความสะอาดเซ็นเซอร์อัจฉริยะ”

มีมาให้รีวิวกันเป็นระยะสำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาด หากใครพอจำได้หลังจากที่ได้ รีวิว – Robotto ProBot “หุ่นยนต์ทำความสะอาดราคาเบา” ไปเรียบร้อยแล้ว อาจไม่ตรงใจสำหรับคนที่อยากได้หุ่นยนต์ที่ไฮเทคขึ้นอีก คราวนี้เราลองมาดูรุ่นสูงที่สุดของ Robotto ที่ชื่อว่า EvoBot กันครับ

Robotto - EvoBot (1)
Robotto (โรบอทโตะ) เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดอีกแบรนด์หนึ่งที่มีหน้าตาดูดี รวมถึงราคาที่ไม่แพงมากและมีมาตรฐานบริการหลังการขาย คุณสามารถซื้ออะไหล่เพิ่มเติมได้โดยที่ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ อุปกรณ์เสริม Robotto ProBot ในราคาถูก
Robotto - EvoBot (2)

คุณสมบัติ

  • ทำความสะอาดปัดฝุ่น, ดูดฝุ่นและถูพื้นในเวลาเดียวกัน
  • โปรแกรมทำความสะอาดอัตโนมัติ 5 โหมด
  • เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Anti-Cliff ป้องกันการตกจากที่สูงหรือพื้นต่างระดับ
  • เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Ultrasonic ป้องกันการกระแทกด้านหน้า ก่อนชนโดยอัตโนมัติ
  • ระบบ Auto-Charging วิ่งไปชาร์จไฟตัวเองโดยอัตโนมัติ
  • ระบบ Virtual Wall กั้นพื้นที่ได้ตามต้องการ
  • สามารถใช้รีโมทคอนโทรลในการสั่งงาน
  • ตั้งเวลาการทำความสะอาดเองโดยอัตโนมัติ
  • ทำความสะอาดได้มากกว่า ฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ Ultraviolet Light
  • ตัวกรองฝุ่น HEPA filter
  • แบตเตอรี่ 2,200 มิลลิแอมป์ เหมาะกับการทำความสะอาดห้องขนาด 60-80 ตารางเมตร
  • น้ำหนัก 3.7 กิโลกรัม
Robotto - EvoBot (3)
สิ่งที่แตกต่างไปอย่างได้ชัดทางกายภาพเมื่อเทียบกับ ProBot ก็คือ น้ำหนักของ EvoBot เยอะกว่ามากและมีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า (สมราคา) ส่วนเรื่องระบบหลัก ๆ ก็คือ EvoBot มีเซ็นเซอร์ Ultrasonic ที่จะตรวจสอบวัตถุด้านหน้าก่อนชน แตกต่างจาก ProBot ที่ต้องชนก่อนถึงจะเปลี่ยนทิศทาง
Robotto - EvoBot (4)

อุปกรณ์ภายในกล่อง 

  • Robotto รุ่น EvoBot สีขาว
  • แปรงปัดฝุ่น 2 ชิ้น
  • แผ่นกรองฝุ่นในเครื่อง 1 แผ่น
  • ผ้าทำความสะอาดแบบซักได้ 1 แผ่น
  • อุปกรณ์ชาร์จ
  • แท่นชาร์จอัตโนมัติ
  • กำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall)
  • แบตเตอรี่ 2,200 มิลลิแอมป์
  • รีโมทคอนโทรล
  • คู่มือการใช้งาน
  • ใบรับประกันสินค้า 1 ปี
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ EvoBot ก็ค่อนข้างเยอะจุใจเลยทันที ที่น่าสนใจก็เป็น Virtual Wall ในการกันพื้นที่ไม่ให้หุ่นยนต์ของเราไปในที่ ๆ ไม่ต้องการ (อาจเป็นบ้านสัตว์เลี้ยง หรือเป็นพื้นที่ ๆ ไม่ต้องการให้เลยออกไป)
Robotto - EvoBot (5)
กระบวนการทำงานของอุปกรณ์ค่อนข้างคล้ายกันกับ ProBot คือใช้แปรงสองข้างปัดฝุ่นเข้ามา และใช้แรงดูดตรงกลางดูดเข้าไป แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแปรงบริเวณตรงกลาง ซึ่งจะช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างสะอาดมากยิ่งขึ้น
Robotto - EvoBot (6)
และถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์ Ultrasonic เพื่อตรวจจับวัตถุก่อนชนก็ตาม แต่ก็ยังมีกันชนแบบ Sensitive Bumper คอยป้องกันอีกทีหนึ่ง (กันเหนียวนั่นเอง)
Robotto - EvoBot (7)
แบตเตอรี่ของ EvoBot มีขนาดค่อนข้างใหญ่ 2,200 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้ครั้งละ 80-90 นาที
Robotto - EvoBot (8)
ผ้าตรงนี้สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ หรืออาจเลือกใช้ผ้าเปียกแบบเช็ดแล้วทิ้ง (ของ Scott มีขายเป็นกล่องอยู่) EvoBot มีโปรแกรมทำความสะอาดอัตโนมัติ 5 โหมด
  1. Spiral Mode ที่จะทำความสะอาดเฉพาะจุด
  2. Along The Wall Mode ที่จะทำความสะอาดตามขอบห้อง
  3. S-shape Mode ที่จะทำความสะอาดเป็นรูปแบบตัว S
  4. Polygonal Mode ที่จะทำความสะอาดรูป 5 เหลี่ยม
  5. Random Mode ที่จะทำความสะอาดภายในห้องอย่างทั่วถึง
โดยโหมดทั้งหมดสามารถสั่งงานได้ด้วยรีโมทในระยะไม่เกิน 10 เมตรครับ
Robotto - EvoBot (9)
ตัวเครื่องสามารถตั้งเวลาทำความสะอาดได้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน และเมื่อทำความสะอาดเสร็จหุ่นยนต์ก็จะกลับไปแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ สะดวกดี
Robotto - EvoBot (10)
การชาร์จแบตเตอรี่สามารถเลือกชาร์จกับเครื่องหรือแท่นชาร์จอัตโนมัติก็ได้ (แต่แนะนำเป็นอย่างหลังจะสะดวกมากกว่า)
Robotto - EvoBot (11)
หน้าตาของเจ้าแท่นเครื่องชาร์จอัตโนมัติ พร้อมตารางการทำงานของเครื่องที่สามารถตั้งเวลาได้ด้วยอีกต่างหาก สะดวกสุดยอด
Robotto - EvoBot (12)
ทดสอบใช้งานไปพอแบตเตอรี่หมด EvoBot ก็จะไปชาร์จตัวเองโดยอัตโนมัติแบบนี้ หรืออาจกดสั่งผ่านรีโมทให้มันไปชาร์จก็ได้ครับ
Robotto - EvoBot (13)
ส่วนอุปกรณ์หน้าตาปริศนาชิ้นนี้คือกำแพงจำลอง (Virtual Wall) จะมีปุ่มให้เปิดเพื่อให้เซ็นเซอร์ทำงานในการจำกัดพื้นที่ของ EvoBot เสมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ เจ้าเครื่องนี้ก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่ด้วยนะ (แต่เป็นนาน ๆ ครั้ง)
Robotto - EvoBot (14)
ถังสำหรับเก็บฝุ่นของ EvoBot ขนาดใหญ่ พร้อมตัวกรองฝุ่น HEPA filter สำหรับใช้ดักฝุ่นและเชื้อโรค นอกจากนี้ยังมีฆ่าเชื้อโรคด้วย Ultraviolet Light ที่มีอายุการใช้งานถึง 6,000 ชั่วโมง
เพื่อให้เห็นภาพการทำงานของเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Ultrasonic ที่ตรวจจับวัตถุก่อนชน และกำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall) ลองดูได้จากวีดีโอด้านบนครับ
Robotto - EvoBot (15)
หลังจากนั้นลองทดสอบด้วยการกวาดบ้านและถูพื้นไปหนึ่งรอบ จากนั้นจึงปล่อยให้ EvoBot ทำงานซักไม่กี่นาที (ตามคลิปด้านบน) จะเห็นได้ว่าพื้นที่เราคิดว่าสะอาดแต่ที่จริงแล้วยังมีเศษผมและเศษฝุ่นอยู่มากมาย (ถึงแม้ว่าเราจะกวาดแล้วก็ตาม) นี่ขนาดพื้นกระเบื้องเรียบ ๆ นะครับ ถ้าหากเป็นพื้นไม้หรือพรมจะขนาดไหน?
Robotto ProBot ราคาอยู่ที่ 9,900 บาท สั่งซื้อได้ที่ RobottoThailand หรือ Fanpage แต่ถ้าอยากไปสัมผัสตัวจริงก็เจอได้ที่ห้างเซนทรัลแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าสาขาชิดลม, ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า

ข้อดี

  1. ระบบชาร์จอัตโนมัติ (Auto-Charging)
  2. เซ็นเซอร์ตรวจวัตถุก่อนชน (Ultrasonic Sensor)
  3. เซ็นเซอร์ตรวจจับการตก (Anti-Cliff Sensor)
  4. กำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall)
  5. ระบบถูพื้นภายในเครื่อง
  6. มีอะไหล่เสริมและบริการหลังการขายติดต่อง่าย

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูง
  2. ตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่ เข้าใต้เตียงลำบาก

สรุป

ถึงแม้จะราคาสูงไปนิด แต่แลกกับเซ็นเซอร์ตรวจวัตถุก่อนชน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ของเราไม่เป็นรอย นอกจากนี้ยังมีกำแพงจำกัดพื้นที่ ช่วยอำนวยความสะดวกในการจำกัดพื้นที่การใช้งาน สามารถทำหน้าที่ทำความสะอาดได้เป็นอย่างดีกว่ารุ่นอื่น และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ตัวเองรวมถึงตั้งเวลาการทำงานได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย เรียกได้ว่ามาครบทุกฟีเจอร์โดยสมบูรณ์จนคุณไม่ต้องทำอะไรเลยแม้กระทั่งสั่งงาน (ยกเว้นแกะกล่องเอาฝุ่นไปเททิ้ง)
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial
ที่มา http://ireview.in.th/review-robotto-evobot

Eton Rugged Rukus Speaker ลำโพงพลังงานแสงอาทิตย์

Eton Rugged Rukus Speaker เป็นลำโพงบลูทูธที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX-4 ออกแบบตัวเครื่องให้มีน้ำหนักเบาเพียง 6.6 กรัม สามารถพกพาได้สะดวก เต็มเปี่ยมด้วยพลังเสียงที่ยอดเยี่ยม

Eton Rugged Rukus Speaker นอกจากจะใช้เพื่อฟังเพลงแล้วยังสามารถใช้ชาร์จแบตเตอรี่สำรองบนโทรศัพท์มือถือเสียบผ่านพอร์ต USB ซึ่งได้ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เอาไว้ที่ด้านบนตัวเครื่องโดยใช้กระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
  • น้ำหนัก 0.53 กิโลกรัม
  • ขนาด: 16.3 x 15.1 x 4.6 ซม.
  • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ แเละสีเขียว
  • ราคา 99.99 USD หรือประมาณ 3,006 บาท
หาซื้อกันได้ที่นี่  http://www.siamphone.com

รีวิว – ซิมยกก๊วนจาก 7-11 พร้อมวิธีขอ 3G ฟรี 4GB จาก Truemove H

01:26
ตอนนี้มีโปรโมชั่นจาก 7-11 ที่สามารถเอาแสตมป์ 1 ดวงมาแลกซิมยกก๊วนของ Truemove H ได้ฟรี 1 อัน แล้ววันนี้ประจวบกับทรูมูฟเอชมีแจก Data ให้ลูกค้าทั้งแบบเติมเงินและรายเดือนถึง 4GB และทีมงานก็สงสัยว่าจะสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ จึงขอถือโอกาสนี้มารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน
Free 3G 4GB

ทำความเข้าใจกับโปรโมชั่นก่อน!

โปรโมชั่นนี้คือการให้เปล่าจาก Truemove H สำหรับทุกคนที่มีมือถือ 3G ที่รอบรับความถี่ 850/2100 MHz ให้กับทั้งรายเดือนและเติมเงิน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ก็ตาม เพียงกด *850# (วันนี้ – 31 ตุลาคม 2556)
How to Free 3G 4GB
ข้อควรทราบก็คือ ต้องกดผ่านมือถือที่สามารถรองรับ 3G ความถี่ 850/2100 MHz เท่านั้น !!! ตรวจสอบรุ่นที่นี่ โดยการแจก Data 4GB จะแบ่งออกเป็นงวดดังนี้
  • แจกครั้งแรกที่กดได้เลย 2GB มีอายุการใช้งาน 30 วัน (หากใช้ไม่หมดตัดทันที)
  • แจกครั้งถัดมา 200MB ทุกเดือนนาน 10 เดือนอายุการใช้งาน 7 วัน (หากใช้ไม่หมดตัดทันที)
เมื่อกด *850# แล้วจะได้ SMS เป็น URL มาให้ยืนยันและเราต้องกดผ่าน 3G ของเครื่องเท่านั้น (กดผ่าน WiFi ไม่ได้)
Review-SIM-7-11 (1)

โปรโมชั่นซิมยกก๊วน

โปรโมชั่นคือ “โทรทรูมูฟ เอชไม่อั้น” โทรทรูมูฟ เอชครบ 5 บาท ได้โทรฟรีถึง 5 โมงเย็น และถ้าโทรครบ 9 บาท ได้โทรฟรีถึงเที่ยงคืน และเติมเงินครั้งแรก 20 บาท ขึ้นไปได้โบนัส 10 บาท และได้ Data 3G 25MB
ส่วนเงินในซิมเริ่มต้นจะมีอยู่ 0 บาท
Review-SIM-7-11 (2)
ซิมเป็นแบบ 2 ขนาด คือ Normal SIM, Micro SIM (สามารถหักด้วยมือได้) แต่ถ้าต้องการ Nano SIM ก็เอาไปแลกที่ศูนย์ได้ครับ
Review-SIM-7-11 (3)
ไม่มีวันหมดอายุครับ เพียงแค่ ใช้, เติม, ซื้อ มันจะต่ออายุให้ 60 วันอัตโนมัติ (ยอดสูงสุด 60 วันและไม่สามารถสะสมได้) ดังนั้นเรื่องวันหมดก็ไม่ต้องกังวลครับ
Review-SIM-7-11 (4)

วิธีขอรับ 3G ฟรีจาก Truemove H 4GB

ขั้นแรกใส่ SIM ลงไปในมือถือที่รอบรับความถี่ 850/2100 MHz เปิด 3G ให้พร้อมแล้วพอจับสัญญาณได้ให้กด *850# จากนั้นจะขึ้นดังภาพ
Review-SIM-7-11 (5)
จากนั้นจะได้ URL มาตามภาพ (แต่ละคนได้ไม่เหมือนกัน) ซึ่งขั้นตอนดังต่อไปนี้ไม่ต้องเติมเงินก็สามารถทำได้ครับ แต่อาจจะติดปัญหาเล็กน้อยซึ่งผมจะกล่าวในตอนท้าย
Review-SIM-7-11 (6)
ขอเสริมเพิ่มเติมว่าใน URL ที่ได้รับมานั้นไม่สามารถกรอกผ่านเครื่องอื่นหรือใช้ WiFi เพื่อคลิกเข้าไปได้ เพราะมันจะขึ้นดังภาพครับ และจากการที่ทดลองใช้งานผ่าน SAMSUNG Galaxy 6.3″, SAMSUNG Galaxy 5.8″, SAMSUNG Galaxy Core, I-mobie IQ XA, ZTE Grand X ก็ไม่สามารถใช้งานได้ซักเครื่อง
อาการประมาณว่า … บางเครื่องจับสัญญาณ 3G ได้ (เลยกดรับโปรโมชั่นได้) … บางเครื่องจับสัญญาณ 3G ไม่ได้และกด URL เพื่อรับโปรโมชั่นไม่ได้ แต่ที่เหมือนกันทุกเครื่องคือ “ไม่ว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถใช้ 3G ได้เลย” ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร
แต่พอเอาไปเสียบกับ iPad มันขึ้นสัญญาณ 52000 และสามารถใช้ 3G ได้ซะงั้น ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทั้งหมดมันเกิดจากอะไร สัญญาณ … มือถือของผมทั้งหมด … ผมผิดพลาดเอง หรืออย่างไร?
แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจแล้วแหล่ะเพราะผมต้องการแค่ซิมเอามาใส่เล่นเน็ตบน iPad เท่านั้นเอง

สรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้

  • มือถือบางเครื่องก็เข้า URL ได้ บางเครื่องก็เข้าไม่ได้ (แต่เช็คเรื่องความถี่แล้ว มือถือมันรองรับ 8500/2100 MHz)
  • ไม่จำเป็นต้องเติมเงินครั้งแรกก็สามารถใช้งานได้
  • หากนำไปใส่ iPad ตรงช่องสัญญาณจะขึ้นว่า 52000
  • ทางทรูบอกว่าเร็ว ๆ นี้จะทำให้สามารถยืนยันผ่าน iPad, Aircard ได้ “ง่ายขึ้น”
  • Data 2GB ครั้งแรกที่ได้มีอายุ 30 วัน และ Data 200MB ทุกเดือนจะได้ต่อเมื่อเติมเงินมากกว่า 50 บาท และมีอายุ 7 วันเท่านั้น
  • ขอ Data ได้ฟรีถึง 31 ตุลาคม 56 (อย่าดองไว้นานเกิน)
  • หากต้องการเป็น Nano SIM เอาไปแลกที่ศูนย์ได้ฟรี
  • ซิมที่ได้มานั้นเปลี่ยนโปรโมชั่นครั้งแรกได้ฟรี (แต่ผมไม่เปลี่ยนหรอก กะใช้แค่ครั้งเดียวทิ้ง)
  • ความเร็ว 3G เหมือนจะถูกกั้ก ๆ ไว้ Download ได้ประมาณ 2-4 Mbps และ Upload ~1 Mbps

สุดท้าย

ให้แค่ 2 ดาวพอครับ (เพราะได้มาฟรี) โปรโมชั่นยังค่อนข้างงง ๆ และวิธีการเช็ค Data ค่อนข้างยากกว่า AIS มาก (iService ต้องสมัครและใส่รหัสวุ่นวายมาก) และที่สำคัญไม่สามารถยืนยัน URL ผ่าน iPad ได้ด้วย เหตุผลหลัก ๆ คือ iPad ไม่สามารถรับ SMS ได้ จะดีกว่าไหม? ถ้าเป็นยินยันทาง E-mail

ที่มา  http://ireview.in.th/review-sim-true-free-3g-4gb/

อุปกรณ์เสริมของไอโฟน Belkin MIXIT ChargeSync Dock

อุปกรณ์เสริมของไอโฟนชิ้นแรก ๆ ของผมถ้าจำไม่ผิดก็เป็น Docking นี่แหล่ะ จำได้ว่าตอนนั้นสั่งของ Apple มาแพงเหมือนกันแต่ไม่ถูกใจเลยซักอย่าง (ฮา) เป็นสินค้าของ Apple ที่ผมไม่พอใจรอง ๆ ลงมาจากสายซิงค์เลย (มันขาดง่าย) ให้ตายสิ !!!
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (1)
Belkin MIXIT ChargeSync Dock ราคาอยู่ที่ 1,690 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป (อุปกรณ์อื่นในภาพไม่ได้รวมอยู่ในชุดนะครับ ขายแยก)
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (2)
และเหมือนเดิมในตระกูล MIXIT ของ Belkin จะต้องมีให้เลือกหลายสีตั้งแต่ สีฟ้า, แดง, ดำ, เขียว, ชมพู และม่วง
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (3)
คำเตือน : อุปกรณ์เคสที่สามารถใช้ร่วมได้ต้องเป็นเคสเปิดด้านล่างแบบดังภาพเท่านั้น
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (4)
ทาง Belkin แนะนำว่าควรซื้อเพื่อใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ (Adaptor) แต่ถ้านึกไม่ออกก็แนะนำ รีวิว – Belkin MIXIT Wall Charger “พกสะดวกสีฟรุ๊งฟริ๊ง” แต่สำหรับผมแนะนำว่าให้ต่อกับคอมฯ น่าจะสะดวกกว่า เผื่อเราไว้ใช้ดูพวกการแจ้งเตือน (Notification) อะไรด้วย
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (5)

ได้มาตรฐาน MFi

MFi ย่อมาจาก Made for iPod iPhone หรือบางรุ่นรวม iPad ด้วยก็ว่าไปตามภาพ สิ่งนี้คือเครื่องหมายรับรองว่าผู้ผลิตได้ทำตามมาตรฐานของ Apple ในทุกขั้นตอน เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพ (สิ่งนี้ไม่ฟรีนะครับ ผู้ผลิตต้องเสียเงินให้ Apple ตัวละกี่เหรียญจำไม่ได้) แต่สำหรับผู้บริโภครับประกันได้เลยว่า ใช้ไปใช้มาแล้วมันจะไม่ขึ้นว่า “อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน” อย่างแน่นอน
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (6)
วัสดุทำออกมาได้เรียบร้อยสมกับแบรนด์ Belkin ดีครับ งานประกอบอะไรเรียบร้อยดี
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (7)
สำหรับตัวนี้ผมมองว่าคู่แข่งคือ Apple ราคา 1,090 บาท ซึ่งถูกกว่าเยอะแล้วคุณภาพล่ะ !?!
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (8)
สำหรับ Belkin MIXIT ChargeSync Dock ตัวนี้มีจุดเด่นมากกว่าของ Apple ตรงที่มีสายฝังมาในตัวเลย (ของ Apple ต้องไปหาเอาดาบหน้าเอง) ถึงแม้ของ Apple จะมี Line Out เพื่อต่อกับลำโพง แต่ผมก็ยังมองไม่เห็นว่ามันจะเข้ากันตรงไหนเลย
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (9)

เลื่อนปรับขนาดได้

Belkin MIXIT ChargeSync Dock มีเอกลักษณ์ที่พิเศษตรงที่สามารถปรับขนาดได้ (ตามความหนาของเคสไอโฟน) ซึ่งตรงนี้มันจะยืดหยุ่นมากกว่าครับ
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (10)
ดูทรงจากด้านล่างแล้วเห็นตรงกันว่า มันคงต้องใช้กับเคสที่เปิดด้านล่างเปลือยจริง ๆ นั่นแหล่ะ
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (11)

เกือบสวยงามแล้วเชียว

ทดสอบใช้งานกับ iPhone 6 ก็สามารถใช้ได้ดี ตรงนี้มองแล้วมันดูลอย ๆ ไปหน่อย (คาดว่าคงเผื่อมาเพื่อใช้กับเคส) แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่าทาง Belkin น่าจะออกแบบใหม่ หรือแถมเป็นฝาครอบน่าจะสวยงามและดูลงตัวกว่านี้
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (12)
กรณีที่เรามีเคสหนา ๆ ตรงนี้สามารถปรับองศาได้ครับ
Belkin - MIXIT ChargeSync Dock (13)
สำหรับเรื่องการ Sync ข้อมูลหรือชาร์จไฟก็สามารถทำได้ตามปกติ ตรงนี้ทาง Belkin ให้สายมาค่อนข้างยาว (1.2 เมตร) สามารถใช้งานได้ทั้งกับ iPod Touch และ iPhone ที่มีหัวชาร์จแบบ Lightning ทุกรุ่น (ส่วน iPad มันจะใหญ่เกินไปครับ ไม่แนะนำให้เล่นพิเรนทร์)

ข้อดี

  1. มีหลายสีให้เลือก
  2. ได้มาตรฐาน MFi
  3. สามารถใช้ร่วมกับเคส (บางรุ่น) ได้
  4. ฝังสาย Lightning มาในตัวเลย

ข้อเสีย

  1. ราคาสูงไปนิด
  2. ฐานวางดูลอย ๆ ไปนิด

สรุป

ถึงแม้จะราคาสูงไปนิด (เข้าใจว่าคงเป็นค่าไลเซ่นส์ Lightning) แต่ความคาดหวังคือมันน่าจะดีกว่านี้ เจ๋งกว่านี้ แต่อันนี้ดูธรรมดาไปหน่อย เรื่องการใช้งานพื้นฐานสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถใช้ร่วมกับเคสได้ด้วยซึ่งจุดนี้เอง Apple ทำไม่ได้
ขอขอบคุณ : Belkin ที่เอื้อเฟื้อส่งสินค้ามาให้รีวิว
ที่มา  http://ireview.in.th/review-belkin-mixit-chargesync-dock/
 
Copyright © รวมพลของเล่นสุดจื๊ดเจ๋งๆ ราคาถูกพอซื้อได้. Designed by OddThemes